วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เทศกาลงานไหมนานาชาติ

                                          เทศงานไหมนานาชาติ


ผู้ว่าฯขอนแก่นยืนยันจัดงานไหมฯยิ่งใหญ่ 12วัน12คืน
29 พ.ย.- 10 ธ.ค. 2559 งานเทศกาลไหมนานาชาติประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2559
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2558 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10ธันวาคม 2558 รวม 12 วัน 12 คืน ณ บริเวณสนามศาลากลางจังหวัดขอนแก่น วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงเอกลักษณ์ความสวยสดงดงามของลายผ้าไหมของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งผ้าไหมไทยที่มีมาก และสวยงามที่สุดของประเทศไทย เพื่อยกระดับผ้าไหมของขอนแก่น ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีผูกเสี่ยว ซึ่งเป็นประเพณีพื้นบ้านที่สืบทอดกันมายาวนานจนเป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่แสดงออกถึงความรัก ความผูกพันประดุจเพื่อนรักเพื่อนตายกัน รวมทั้งเผยแพร่ชื่อเสียง แหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศ และเพื่อหารายได้ให้เหล่ากาชาดจังหวัด สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนและประสบสาธารณภัยต่าง ๆ งานเทศกาลไหมขอนแก่นก้าวสู่สากล แต่ยังคงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีของชาวจังหวัดขอนแก่น โดยเฉพาะประเพณีผูกเสี่ยว ที่สืบทอดและอยู่คู่กับจังหวัดขอนแก่น เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวขอนแก่น ให้ความสำคัญจัดให้มีกิจกรรมการผูกเสี่ยว ณ ศาลาผูกเสี่ยวทุกคืน ส่วนในด้านที่พัก ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เราก็มีอย่างเพียงพอ และด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการ เตรียมการประชุมวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไว้ รองรับตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่น ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งให้ท่านได้ไปท่องเที่ยว สำหรับการเดินทางสู่จังหวัดขอนแก่น ก็มีทั้งรถไฟ รถโดยสารปรับอากาศตลอด 24 ชั่วโมง เครื่องบินวันละหลายสิบเที่ยว ก็ขอเชิญชวนทุกท่านมาเที่ยวงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2559
งานเทศกาลไหมหรือที่นิยมเรียกว่า "งานไหมขอนแก่น เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี2522 ต่อมาได้นำเอาประเพณีผูกเสี่ยว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวขอนแก่น และชาวภาคอีสานเข้าจัดร่วมกับงาน เทศกาลไหม และในปี 2526 ได้มีการเพิ่มคำว่างานกาชาดเข้าไปด้วย จึงมีชื่องานว่า งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดจังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และในปี 2558 ประเทศไทยก็จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับงานไหมของจังหวัดขอนแก่นให้เป็นงานที่จะก้าวสู่สากลภายใต้ชื่องานว่า "เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น”
ภาพและข่าว จาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น




วันพ่อแห่งชาติ

                   วันพ่อแห่งชาติ

ภาพจาก Boonsom / Shutterstock.com  



          วันพ่อแห่งชาติ 2559 มาอ่านประวัติความเป็นมาของวันพ่อแห่งชาติในประเทศไทยและทั่วโลกกัน

          เราทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าวันที่ 5 ธันวาคม นั้นเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" โดยทางราชการได้กำหนดให้วันพ่อแห่งชาติ เป็นวันหยุดราชการหนึ่งวัน
 แต่รู้กันหรือไม่ว่า "วันพ่อแห่งชาติ" ของแต่ละประเทศตรงกับวันไหน และ วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศไทยมีที่มาอย่างไร กระปุกดอทคอม จะพาไปรู้จักเรื่องราวของ "วันพ่อแห่งชาติ" กันค่ะ

ประวัติ วันพ่อแห่งชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ ในทั่วโลก
          วันพ่อแห่งชาติ ถือเป็นวันสำคัญที่ฉลองถึงความเป็นพ่อ และบุคคลที่นับถือเยี่ยงพ่อ โดย จอห์น บี. ดอดด์ ชาวอเมริกัน เป็นผู้ที่ริเริ่มแนวคิด วันพ่อแห่งชาติ โดยงาน วันพ่อแห่งชาติ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2461 ในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองแฟร์มอนต์ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

          ก่อนที่แนวคิดวันพ่อแห่งชาติ ของจอห์น บี. ดอดด์ จะถูกเผยแพร่ไปในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยวันพ่อแห่งชาติของแต่ละประเทศจะกำหนดวัน และจัดงานแตกต่างกันไป เช่น

           วันที่ 19 มีนาคม เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศสเปน โปรตุเกส อิตาลี

           วันที่ 8 พฤษภาคม เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศเกาหลีใต้

           วันที่ 5 มิถุนายน เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศเดนมาร์ก

           วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศญี่ปุ่น อาร์เจนตินา ไอร์แลนด์ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร

           วันที่ 23 มิถุนายน เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศโปแลนด์

           วันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศบราซิล

           วันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

           วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์

           วันที่ 5 ธันวาคม เป็น วันพ่อแห่งชาติ ของประเทศไทย



วันพ่อแห่งชาติ ในประเทศไทย
        สำหรับวันพ่อแห่งชาติของประเทศไทย ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2470 และยังได้มีการกำหนดให้ดอกพุทธรักษา เป็นสัญลักษณ์ วันพ่อแห่งชาติ

          ทั้งนี้ นอกจากวันที่ 5 ธันวาคม จะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" แล้ว ยังถือว่าวันนี้เป็น "วันชาติของไทย" อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยเคยมีการกำหนดวันชาติให้เป็นวันที่ 24 มิถุนายน เพราะเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย โดยได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติครั้งแรกในปี พ.ศ. 2482 ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ 

          ซึ่ง "วันชาติ" ของไทยนั้นอยู่มานานถึง 21 ปี จนวันที่ 21 พฤษภาคม 2503 ในสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกฯ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ถือวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย โดยเหตุที่เปลี่ยนเพราะมีข้อไม่เหมาะสมหลายประการ คณะกรรมการจึงมีความเห็นว่าเพื่อให้เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นหลักการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน 

          จึงควรถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย โดยยกเลิกวันชาติ ในวันที่ 24 มิถุนายนเสีย ดังนั้นนับแต่ปี 2503 ประเทศไทยจึงได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็น "วันชาติ" ของไทย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา   

 


ที่มาของ วันพ่อแห่งชาติ ในประเทศไทย

          วันพ่อแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่มจัดงานวันพ่อแห่งชาติ เนื่องจาก "พ่อ" คือผู้ที่ควรได้รับการเทิดทูน และยกย่อง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา และทรงทะนุบำรุงพระราชโอรส และพระราชธิดาด้วยความรัก ทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ และทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเพื่อให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท

           นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พสกนิกรถ้วนหน้า จึงถือเป็น "พ่อแห่งชาติ" ของพสกนิกรชาวไทยทุกคน ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท 
วัตถุประสงค์ของการจัดงาน วันพ่อแห่งชาติ
         วัตถุประสงค์ของการจัดงาน วันพ่อแห่งชาติ คือ 
          1. เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

          2. เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม

          3. เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ

          4. เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน

          5. เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับพ่อ และลูกที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดี สมควรแก่การยกย่องของสังคม

          6. เพื่อรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป




กิจกรรม 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ
          กิจกรรมที่นิยมปฏิบัติในวันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันพ่อแห่งชาติ ได้แก่ การประดับธงชาติที่อาคารบ้านเรือน, การจัดพิธีศาสนสงฆ์ ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล น้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล, การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และที่ขาดไม่ได้สำหรับกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ คือการมอบรางวัลพ่อตัวอย่างหรือพ่อดีเด่น เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม อีกทั้งยังเพื่อให้ผู้เป็นพ่อได้สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน 

          และในวันพ่อแห่งชาติที่จะมาถึงนี้ ลูก ๆ ทั้งหลายก็อย่าลืมแสดงความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อพ่อ แม้ว่าจริง ๆ แล้วการแสดงความรักและความกตัญญูต่อพ่อสามารถแสดงได้ทุกวัน ไม่ใช่แค่วันพ่อแห่งชาติ เพียงวันเดียว

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีที่น่ารู้

           

10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ



10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ
                                            
10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ (TENN Magazine)

          ในปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันทันสมัยก็เริ่มกลายเป็นของใช้จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา หูฟัง หรือแม้กระทั่งกล้องถ่ายรูป เชื่อว่าอุปกรณ์แทบทุกชิ้นที่ยกตัวอย่างมา ทุกคนที่กำลังอ่านอยู่น่าจะมีใช้งานกัน "อย่างน้อย" คนละหนึ่งชิ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น วันนี้เราจะมาสำรวจเทคโนโลยีใกล้ตัวของเราไปพร้อม ๆ กัน เพราะอุปกรณ์ใกล้ตัวเรานี่แหละ สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด

1. Smartphone อวัยวะลำดับที่ 33 ของทุกคน

          คนแทบทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพน่าจะต้องมีโทรศัพท์มือถือเป็นของใช้ประจำกายกันแทบทุกคน แต่รู้หรือเปล่าว่าสมาร์ทโฟนในยุคนี้ทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ปัจจุบันเราสามารถพูดคุยกับมือถือของเรา สั่งงานด้วยเสียงได้โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม สมาร์ทโฟนใหม่ ๆ แทบทุกรุ่นมี GPS ติดตั้งในตัว เราสามารถใช้เป็นเครื่องมือนำทางได้ ล่าสุดมีการประยุกต์ใช้สมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือนำทางของคนตาบอด โดยใช้ความสามารถของการสั่งงานด้วยเสียงและการระบุตำแหน่งด้วยระบบ GPS ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เมื่อเราอยากจะตัดสินใจอะไร เราอาจจะต้องหันมาพูดคุยปรึกษากับอวัยวะลำดับที่ 33 นี้ก็เป็นได้นะ

2. Bluetooth Headset เทคโนโลยีที่ซ่อนอยู่ข้างใบหู

          รู้หรือเปล่าว่าหูฟังชิ้นเล็ก ๆ นี้มีเทคโนโลยีมากมายที่ได้ถูกบรรจุเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่จะช่วยให้การสนทนาของเราเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งมีเทคโนโลยีหลายรูปแบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่น การใช้ไมค์รับเสียงแบบพิเศษที่สามารถตรวจสอบคลื่นรบกวน เสียงลม เสียงรอบข้างที่ไม่ใช่เสียงพูดได้ หรือการใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับการขยับของกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้หูฟังบลูทูธอย่าง Jawbone ยังสามารถลงแอพพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มความสามารถ เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานได้อีกด้วย

3. Headphone นวัตกรรมเพื่อความบันเทิง

          รู้หรือเปล่าว่าเสียงคุณภาพดีที่ได้จากหูฟังแต่ละประเภทมีเทคโนโลยีระดับสูงซ่อนอยู่มากมาย การออกแบบหูฟังตัวใหญ่ ๆ กับการออกแบบหูฟังแบบ In-Ear ก็จะใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน พื้นฐานของการออกแบบหูฟัง ก็คือการพยายามย่อขนาดส่วนประกอบต่าง ๆ ของลำโพงมาบรรจุไว้ในหูฟัง โดยรักษาระดับคุณภาพของเสียงไว้ให้ได้มากที่สุด ฉะนั้นหูฟังจึงมีหลายระดับราคา ในหูฟังราคาระดับหมื่นบาทนั้นภายในจะประกอบด้วยวงจรตัวขับที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เสียงร้องที่ชัดเจน เสียงเบสที่หนักแน่น ลองฟังเพลงเดิมด้วยหูฟังดี ๆ สักตัวดูสิ แล้วจะรู้ว่าความแตกต่างของคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร

10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ

4. Watch เมื่อนาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา

          ถามว่านาฬิกาเรือนนี้ "ทำอะไรได้บ้าง?" คงจะได้คำตอบมากมายเพราะนาฬิกาในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดแบบนี้ เพราะมักมีฟังก์ชั่นการทำงานที่นอกเหนือจากความสามารถพื้นฐานอย่างใช้จับเวลา หรือใช้บอกเวลาทั่วโลก นาฬิกาบางรุ่นสามารถเดินได้เองโดยไม่ต้องใช้ถ่านและยังคงความเที่ยงตรงไว้ได้สมบูรณ์ 100% ซึ่งยากที่นาฬิกาแบบออโตเมติกรุ่นก่อน ๆ จะทำได้ หรือนาฬิกาที่ใช้เป็นโทรศัพท์ นาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อนักดำน้ำ นักปีนเขา หรือกิจกรรมเฉพาะด้าน ลองมองดูนาฬิกาที่เราสวมอยู่สิครับว่าทำอะไรได้บ้าง? มองดูแล้วอยากจะเปลี่ยนนาฬิกากันบ้างหรือยัง?

5. Tablet เมื่อความบันเทิงพกติดตัวไปได้ทุกที่

          ตั้งแต่แอปเปิลเปิดตัว iPad เราก็ได้เห็นพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิตอลเปลี่ยนไปพอสมควร และในตอนนี้ก็มีแท็บเล็ตออกมามากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ? รู้หรือไม่ว่าเราสามารถเข้าไปศึกษาหรือเข้าเรียนคอร์สต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศแบบออนไลน์ได้ เราสามารถแก้ไขไฟล์เอกสารงานต่าง ๆ ได้ด้วยชุดแอพพลิเคชั่นออฟฟิศที่มีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์อีกต่อไป และถ้าเราเป็นผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงรูปแบบใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้มีเกมบนแท็บเล็ตที่เราสามารถเล่นกับเพื่อน ๆ ที่ออนไลน์อยู่อีกฝั่งนึงของโลกได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว

6. E-Reader เพื่อนคู่ใจหนอนหนังสือ
          หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ E-Reader อย่าง Amazon Kindle หรือ Nook อุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์คู่ใจหนอนหนังสือยุคไอที แต่ไม่ช้าก็เร็วเจ้า E-Reader จะเข้ามาแทนที่หนังสือเกือบ 100% อย่างแน่นอน รู้หรือเปล่าว่าเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ช่วยให้เราสามารถขนหนังสือเป็นพัน ๆ เล่มติดตัวไปได้โดยมีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลก็ให้รู้สึกในการอ่านที่ใกล้เคียงกับกระดาษอ่านสบายตา และยังมีฟังก์ชั่นดี ๆ อย่างระบบ Note และ Bookmark ที่เราสามารถซิงค์ข้อมูลการอ่านของเราได้กับอุปกรณ์หลายตัว ทำให้สามารถอ่านหนังสือเล่มโปรดได้ทุกที่ทุกเวลาเลยล่ะ

7. Laptop เมื่อต้องพกคอมพิวเตอร์ติดตัวไปทุกที่
          ไม่ว่าเราจะทำงานในสาขาอาชีพอะไร เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ดูจะเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานไปแล้ว และนับตั้งแต่วันที่แล็ปท็อปเครื่องแรกถือกำเนิดขึ้น ทำให้เราหอบหิ้วเครื่องคอมพิวเตอร์ไปได้ทุกที่ จนถึงวันนี้ก็มี Ultrabook ที่เป็นแล็ปท็อปดีไซน์บางเฉียบ มีน้ำหนักเบา พกพาสบายไม่เป็นภาระ แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพระดับเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ ๆ หรือแล็ปท็อปเครื่องหนัก ๆ ที่น่าสนใจคือแล็ปท็อปรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งแบบสแกนนิ้วมือและแบบจดจำใบหน้า มีหน้าจอการแสดงผลที่ละเอียดและแสดงผลได้สวยงามไม่แพ้จอรุ่นใหญ่ ๆ ในอนาคตอันใกล้เราคงจะได้เห็นการรวมกันระหว่างแท็บเล็ตและแล็ปท็อปก็เป็นได้

10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวคุณ

8. Compact Camera กล้องขนาดเล็กคุณภาพเกินตัว

          กล้องคอมแพคท์ถือเป็นกล้องที่ขายดีที่สุด เพราะมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ราคาไม่แพง เมื่อก่อนการใช้งานกล้องคอมแพคท์ก็เพียงเพื่อเก็บภาพประทับใจโดยไม่ได้คาดหวังกับคุณภาพของภาพสักเท่าไร แต่รู้หรือเปล่าว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีที่อยู่ในกล้องตัวเล็ก ๆ นี้ก้าวหน้าไปมาก กล้องคอมแพคท์สามารถโฟกัสใบหน้าคนได้อัตโนมัติ สามารถจดจำใบหน้าของคนที่เรารู้จัก และยังสามารถบันทึกพิกัดของสถานที่ที่เราเก็บภาพได้ด้วยระบบ GPS แถมยังสามารถส่งข้อมูลผ่าน WiFi เพื่อโอนหรือแชร์ภาพถ่ายได้ทันที และนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Mirrorless ซึ่งเป็นกล้องตัวเล็กที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ก็ช่วยให้เราได้ภาพในระดับมืออาชีพเลยทีเดียว

9. GPS เพื่อนคู่ใจในการเดินทาง

          ไลฟ์สไตล์ของคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวชอบการเดินทาง อุปกรณ์นำทางอย่าง GPS Navigator ก็คงจะเป็นอุปกรณ์คู่ใจที่ช่วยให้การเดินทางมีสีสันมากยิ่งขึ้น บางคนอาจจะใช้เพียงฟังก์ชั่นพื้นฐานเท่านั้น แต่รู้หรือเปล่าว่าอุปกรณ์ GPS ในสมัยนี้มีราคาที่ถูกลงมาก แถมมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจุด POI ที่ครอบคลุมมากขึ้น ระบบการจับสัญญาณดาวเทียมเพื่อคำนวณพิกัดที่ดียิ่งขึ้น ลูกเล่นในการบอกเส้นทาง เช่น การแสดงภาพทางร่วมทางแยกต่าง ๆ เป็นรูปภาพพร้อมแสดงช่องจราจรให้เสร็จสรรพ ป้องกันการเข้าเลนผิดช่องในเมืองใหญ่ ๆ ที่ถนนพันกันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นของการพูดบอกเส้นทางเป็นภาษาต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ ไทยเหนือ ไทยอีสาน เสียงผู้ชาย เสียงผู้หญิง และลูกเล่นอีกมากมายที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องน่าสนุกมากยิ่งขึ้น

10. Handheld Game Console พกความสนุกไปทุกที่

          ในยุคดิจิตอลที่เกมและความบันเทิงเป็นของคู่กัน เครื่องเกมแบบพกพา จึงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เครื่องเล่นเกมแบบพกพาอย่าง Nintendo DS, 3DS และ Sony PSP, Vita เป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่อัดแน่นทั้งความบันเทิงและเทคโนโลยี แต่รู้หรือเปล่าว่าเครื่องเล่นเกมเครื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อเล่น เกมออนไลน์ได้ และถึงจะมีหน้าจอเล็ก ๆ แบบนี้แต่ก็สามารถใช้ดูหนังฟังเพลงด้วยการแสดงผลภาพและเสียงที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ การเล่นเกมยังเพิ่มอรรถรสด้วยระบบสั่นสะเทือนในตัว สามารถเล่นเกมที่แสดงผลในแบบ 3 มิติได้ ทั้งยังมีเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง AR (Augmented Reality) ที่พลิกโฉมรูปแบบในการเล่นเกมแบบพกพาไปอย่างสิ้นเชิง ใครที่ยังไม่เคยเล่น ลองหาโอกาสไปสัมผัสกันดูนะครับ

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

วันแม่แห่งชาติ


 วันแม่แห่งชาติ 2558 กลอนวันแม่
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
 
วันแม่แห่งชาติ 2555

12 สิงหาของทุกปีเป็นวันแม่แห่งชาติไทย
 
วันนี้คุณบอกรักแม่หรือยัง

 
ความหมายของคำว่า "แม่"
 
     คำว่า “แม่” พจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "แม่" ไว้ดังนี้
 
     แม่ หมายถึง หญิงในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิดแก่ลูก, คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน
     ในทางพระพุทธศาสนา ได้ให้ความหมายของคำว่า "แม่" ซึ่งหมายถึง หญิงที่มีครอบครัวไว้หลายนัย เช่น
 
     1. แม่ บางทีเรียกว่า มารดา มารดร หมายถึง เป็นใหญ่ เช่น แม่ทัพ แม่น้ำ แม่กอง เป็นต้น อันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ภายในกิจการนั้นๆ ในที่นี้มาใช้กับผู้ให้กำเนิดแก่ลูกและหาตัวแทนไม่ได้
        - หญิงในฐานะผู้ให้กำเนิดแก่ลูก และหาตัวแทนไม่ได้
        - คำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน
        - คนที่เป็นหัวหน้า หรือเป็นนาย โดยไม่จำกัดว่าเป็นชายหรือหญิง เช่น แม่ทัพ แม่กอง ฯลฯ
     รวมความแล้ว "แม่" คือ ผู้รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน โดยการรับผิดชอบนั้นมีขอบเขตภายในบ้านเรือน
 
     2. ชนนี หมายถึง ผู้ให้กำเนิดลูก, เป็นที่บังเกิดเกล้าของลูก
 
     3. ภรรยา หรือภริยา หมายถึง
        - เมีย หรือ หญิงผู้เป็นคู่ครองของชาย
        - ผู้เลี้ยง หรือผู้ดูแลสมาชิกของครอบครัว
 
     นักภาษาศาสตร์ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า คำว่า "แม่" ของทุก ๆ ภาษา มาจากการออกเสียงของเด็ก โดยคำขึ้นต้นด้วยพยัญชนะริมฝีปากคู่ ได้แก่ ม , พ , ป ,บ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นพยัญชนะชุดแรกที่เด็กสามารถทำเสียงได้ โดยการใช้ริมฝีปากบนและล่าง ดังเช่น
 
ภาษาจีน ม๊ะ หรือ ม่า
ภาษาฝรั่งเศส la mere (ลา แมร์)
ภาษาอังกฤษ mom , mam
ภาษาโซ่ เม๋เปะ
ภาษาไทใต้คง เม เป็นต้น
 
วันแม่แห่งชาติ รักใดเล่ารักแน่เท่าแม่รัก

พระคุณแม่ยิ่งใหญ่หาใดเทียบมิอาจเปรียบแม้ภูผาชลาสินธุ์
น้ำนมที่กลั่นให้ลูกได้ดื่มกินลูกถวิลถึงคุณค่าว่าอนันต์

ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติ
 
            ชาวอเมริกันเป็นผู้กำหนดให้มีวันแม่อย่างเป็นทางการขึ้น และผู้ที่พยายามเรียกร้องให้มีวันแม่ในอเมริกา คือ แอนนา เอ็ม. จาร์วิส คุณครูแห่งรัฐฟิลาเดลเฟีย แต่กว่าเธอจะประสบความสำเร็จก็ครบ 2 ปีพอดีในปี พ.ศ.2457 โดยประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคำสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สำหรับวันแม่ของชาวอเมริกันก็คือดอกคาร์เนชั่น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ประดับตกแต่งบ้าน หรือประตูด้วยดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ถ้าแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาว
 
ความเป็นมาของวันแม่แห่งชาติในประเทศไทย
 
     วันแม่แห่งชาติ งานวันแม่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข แต่ช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไป เมื่อวิกฤติสงครามสงบลง หลายหน่วยงานได้พยายามให้มีงานวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง ต่อมาวันแม่ที่รัฐบาลรับรอง คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 แต่ก็ต้องหยุดลงอีกในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวัฒนธรรมถูกยุบไป ส่งผลให้สภาวัฒนธรรมแห่งชาติซึ่งรับหน้าที่จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุน
 
     ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานวันแม่ขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดวันแม่ขึ้นใหม่ให้เป็นวันที่แน่นอน โดยถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคมเป็นวันแม่แห่งชาติ และกำหนดให้ดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ คือ ดอกมะลิ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
 
ทำไมจึงใช้ดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำวันแม่
 
     การที่ใช้ดอกมะลิ เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ก็เพราะดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมที่หอมไปไกลและหอมได้นาน ผลิดอกได้ทั้งปี อีกทั้งยังนำไปปรุงเป็นเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ลึกซึ้งที่แม่มีต่อลูก เป็นความรักที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีพิษมีภัย มีแต่ความชุ่มชื่นใจดั่งความหอมของดอกมะลิ
 
วันแม่แห่งชาติ ใช้ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์

ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์ของวันแม่
 
ดอกมะลิดอกไม้ประจำวันแม่
 
ชื่อ :
มะลิ มะลิลา มะลิหลวง มะลิซ้อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ และชื่อพฤกษศาสตร์ :
Jusminum adenophyllum.
วงศ์ :
OLEACEAE
ลักษณะทั่วไป :
เป็น พรรณไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบๆ ลำต้นสูงประมาณ 5 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกเป็นคู่ ไปตามก้านต้นลักษณะใบป้อมมน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบไม่มีจัก ผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบยาว 2-3 นิ้ว มีดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกเป็นช่อตามปลายยอดหรือปลายกิ่งประมาณ 3-5 ดอก แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกมีสีขาวกลิ่นหอม มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน ออกดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์ :
เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกในดินร่วนซุย ขยายพันธุ์โดยการปักชำ หรือตอนกิ่ง
สรรพคุณทางยา :
มะลินอกจากจะมีกลิ่นหอมไว้ดมแล้ว มะลิดอกแห้งใช้ปรุงเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี


 
ดอกมะลิสัญลักษณ์ประจำวันแม่
 
มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก กรุ่นกลิ่น “รัก” บริสุทธิ์ผุดผ่องใส
แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ เป็นมาลัย “กราบแม่” พร้อมน้อมบูชา
 
ดอกเอ๋ยดอกมะลิ
ถึงยามผลิกลิ่นพราวสกาวต้น
สดสะอาดปราศสีราคีระคน 
เหมือนกมลใสสดหมดระคาย
กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง  
เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย
อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย
ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย
 
*คำประพันธ์บทดอกสร้อยชื่อ แม่จ๋า ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา
 
 

วันแม่แห่งชาติ 2558 แม่นี่มีบุญคุณอันใหญ่หลวง 



มาดูเรื่อง แม่บังเกิดเกล้า เพื่อระลึกถึงพระคุณแม่ ในวันแม่แห่งชาติกัน





       พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณอย่างที่สุดของลูก นับตั้งแต่เป็นต้นแบบที่ดีของลูก คือเป็นผู้ให้รูปร่างมนุษย์ที่เหมา
 
วันแม่มาถึงอีกแล้วนะ
รู้ตั้งนานแล้วล่ะ ว่าแม่รักเรา
แล้วแม่จะรู้มั้ยนะว่าเราก็รักแม่เหมือนกัน
เพียงแต่เราไม่เคยบอกตรงๆ เท่านั้นเอง เราเขินอ่ะ


เทศกาลวันแม่เป็นวันที่ฉลองกันได้ทั้งโลก
เพราะว่าบางคนเป็นแม่ ส่วนที่เหลือก็มีแม่

พูดอย่างไรก็ถูก มาโหลด มาเซฟ มาดู มาฟัง คอลเล็คชั่นเพลงวันแม่ (เพียบ!)

แล้วไปสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นที่บ้านเรากัน...
 
เพลงชุด : วันแม่
 
[คลิกที่ชื่อเพลงเพื่อรับชม]
 
รักแม่จังเลยตะวันธรรม
3746k
11608k
รักแม่24น.ตะวันธรรม
3746k
 
น้ำใจแม่-
4801k
-
 
แม่แก้ว-
4890k
-
 
แม่-
4016k
-
 
อุแว้คุณแม่อุดม แต้พานิชย์
2668k
-
 
แค่นี้ก็บุญคุณหนักหนาตะวันธรรม
2644k
8332k
แทบเท้ามารดาตะวันธรรม
3525k
16428k
ต้นทางสวรรค์ตะวันธรรม
3442k
16101k
อากาศไม่อาจผ่านตะวันธรรม
2947k
13764k


คลิกเมาส์ปุ่มขวา แล้วเลือก "Save target as" หรือ "Save link as" เพื่อทำการดาวน์โหลด




 
รับชมวีดีโอเพลงค่าน้ำนมที่น่ารักที่สุด
ค่าน้ำนม By..ไอโกะ

ค่าน้ำนม-ไอโกะ
ฟังเพลงค่าน้ำนมออนไลน์กับคุณครูไอโกะ

เนื้อเพลงค่าน้ำนม
มาร้องไปพร้อมๆ กับคุณครูไอโกะนะคะ

แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง แม่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล

แม่เราเฝ้าโอละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล

แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม  แม่ผ่ายผอม ย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ

เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไรมิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม

ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม  โอ้ว่าแม่จ๋า

ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน

ค่าน้ำนมชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน

บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกันทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย

......

ค่าน้ำนม-เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
ร่วมกัน Change the World

ค่าน้ำนม

Value of Mother's milk

แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
Mothers are tremendous benefactor for all of us.

ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
Mothers keep caring since we were sleeping in cradles.

แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
Mothers keep singing lullabies for babies

กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
and never leave them anywhere.

เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
Since we were still young until today, mothers always care of us

แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
She is so tired that becomes thin because she loves her baby a lot.

เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
We all grow up today,

นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
not because of anything else than mothers' milk.

* ควร คิดพินิจให้ดี
Please be thoughtful

ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
and you'll find that Mother's milk cannot be compared with anything.

โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
Mother,I miss the value of your milk that feeds me

เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
It was mixed with blood in your heart and then becomes milk for baby.

ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
The value of it reminds me of appreciation

แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
It is comparable to the sky and heavier than the earth.

บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
No matter you will ordain or complete your study for her
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย
stil it cannot compare to the one drop of her milk. Nothing can indemnify it.

วันแม่แห่งชาติ 2558

 


http://goo.gl/V4HNA



พิมพ์บทความนี้




ร่วมแสดงความเห็นกัน !

    แสดงความเห็นเป็นคนแรกสิ !


    บทความอื่นๆ ในหมวด

          ต้นบัญญัติมารยาทไทย ตอน บ่อเกิดของมารยาทไทย
          เป้าหมายชีวิตของมนุษย์
          วิธีการเลี้ยงดูลูกในยุค Generation Alpha
          อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย
          "เข้าพรรษา" ช่วงเวลาของการเพิ่มพูนความดี
          อานิสงส์การเป็นภรรยาที่ดี
          วันภาษาไทยแห่งชาติ 2558 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
          ปฐมเทศนาในวันอาสาฬหบูชา
          อานิสงส์การให้ทานเพื่อขจัดความตระหนี่
          หยุด นิ่ง เฉย ทางด่วนในการเข้าถึงพุทธรัตนะ
          กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท
          บวชเถิดชายไทยอย่ามัวหลับใหลลุ่มหลง
          อานิสงส์บูชาการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า