วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

งานประเพณีสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

ประเพณีสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง

sartthai
ประเพณีสารทไทย (ในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐  ) เป็นช่วงเวลาที่ชาวพุทธเข้าวัดทำบุญเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณจะต้องมีขนมหวานที่ชื่อ กระยาสารทเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลดังกล่าวกระยาสารท เป็นชื่อขนมหวานของไทยชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล  ชื่อของกระยาสารท แปลได้ว่า อาหารที่ทำขึ้นในฤดูสารท  ทำจากถั่ว งา ข้าวคั่ว นำมาผัดกับน้ำตาลจนเหนียว เป็นขนมหวานที่นิยมทำในช่วงสารทไทย หรือในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐  เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วส่วนคำว่า สารท หมายถึง ฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร ซึ่งจะอยู่ในช่วงปลายฤดูฝนเริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ตามความเชื่อของคนโบราณ เมื่อเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารในคราวแรกแล้ว พืชพันธุ์ธัญญาหารที่เก็บเกี่ยวได้ในครั้งแรก จะนำไปบรวงสรวง บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือจะช่วยให้เกิดสิริมงคลกับชีวิตและเรือกสวนไร่นาของตนทั่วแทบทุกภูมิภาคของไทยจะมีการจัดงานทำบุญวันสารทไทยเหมือนๆ กัน แต่ต่างกันที่ชื่อเรียก เช่น ภาคใต้จะเรียกประเพณีนี้ ประเพณีชิงเปรต  ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะจัดชื่องานทำบุญข้าวสาก  ส่วนภาคเหนือจะเรียกกันว่า ตานก๋วยสลาก และที่เป็นงานประเพณีที่มีชื่อเสียงอีกงานหนึ่ง คือ งานประเพณีสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพง ที่นำเอากล้วยไข่ ของดีประจำจังหวัดที่จะให้ผลผลิตในช่วงเวลาดังกล่าวมาจับคู่กับกระยาสารท และรสชาติของกกล้วยไข่ก็ช่วยให้รสชาติของกระยาสารทกลมกล่อมยิ่งขึ้นงานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงในงานประกอบด้วยการทำบุญการทำบุญตักบาตร การประกวดขบวนรถที่ตกแต่งด้วยกล้วยไข่เป็นหลัก ประกวดธิดากล้วยไข่, การประกวดกล้วยไข่, การจำหน่ายกล้วยไข่, การแข่งกวนกระยาสารทในอดีตตามธรรมเนียมเมื่อถึงเทศกาลทำบุญสารทไทย ชาวบ้านจะกวนกระยาสารทขึ้นเพื่อนำไปทำบุญที่วัด แบ่งไปมอบให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หรือแลกเปลี่ยนกันเพื่อเป็นการประชันฝีมือการกวนกระยาสารทของแต่ละบ้าน แต่ปัจจุบันด้วยความเร่งรีบธรรมเนียมการกวนกระยาสารทในบ้านก็เริ่มหายไป เนื่องจากมีขั้นตอนกระบวนการและระยะเวลาการกวนที่ยาวนาน ผู้คนจึงหันไปหาซื้อจากร้านค้าที่กวนกระยาสารทนำไปทำบุญหรือมอบให้แก่กันแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น